เว็บไซต์ฟุตบอล ฟุตบอลขั้นเทพ และ ฟุตบอล pantip ให้รายงานว่าการแข่งขันศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 4 การพบกันระหว่าง สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี เปิดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ ยักษ์แดง อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม รายงานจาก BK8THAI ผลบอลสด
เว็บไซต์ ฟุตบอลขั้นเทพ และ ฟุตบอล pantip รายงานว่า เจ้าบ้าน เชลซี ภายใต้การนำทีมของ แฟรงก์ แลมพาร์ด จัดทัพมาในระบบ 4-3-3 วิลเลี่ยน, แทมมี่ อบราฮัม และ เมสัน เมานท์ เป็นสามผสานแดนหน้า
ทางฝั่ง อาแจ็กซ์ ของกุนซือ เตน ฮาร์ก มาในระบบ 4-2-3-1 ดูซาน ทาดิช ยืนเป็นหน้าเป้า ฮาคิม ซิเยค สนับสนุนในตำแหน่งจอมทัพ
จังหวะสำคัญของเกม
เว็บไซต์ ฟุตบอลขั้นเทพ และ ฟุตบอล pantip รายงานว่า เริ่มเกมมาเพียง 2 นาที อาแจ็กซ์ทำช็อกเจ้าถิ่นด้วยการได้ประตูนำก่อน 1-0 เมื่อได้ฟรีคิกทางฝั่งซ้าย ควินซี่ โพรเมส เปิดเข้าไปในเขตโทษ แทมมี่ อบราฮัม หัวหอกเชลซีลงไปช่วยเกมรับแต่สกัดบอลส่งบอลเข้าประตูตัวเองไปอย่างโชคร้าย
แต่อีกนาทีถัดมา เชลซี ก็มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ คริสเตียน พูลิซิช โดน โยเอล เฟลท์มัน ทำฟาวล์ในเขตโทษ จอร์จินโญ่ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด
นาที 14 เชลซี ส่งบอลตุงตาข่ายได้จากจังหวะที่ มาเตโอ โควาซิช ไหลบอลให้ อบราฮัม หลุดเดี่ยวไปยิงเน้นๆ ทว่าหัวหอกฟอร์มแรงล้ำหน้าไปเสียก่อน
พอเชลซีทำไม่ได้ กลับเป็นอาแจ็กซ์ที่นำอีกครั้งเป็น 2-1 ฮาคิม ซิเย็ค สาดบอลจากซ้ายเข้าเขตโทษ ควินซี่ โพรเมส สอดมาโขกจ่อๆ เข้าไปไม่เหลือ
เล่นไปเล่นมา อาแจ็กซ์ หนีเป็น 3-1 ในนาที 36 จากฟรีคิกทางฝั่งขวา ฮาคิม ซิเย็ค ปั่นด้วยซ้ายเต็มแรงส่งบอลชนเสาไกลก่อนเด้งโดนหน้า เกปา อาร์ริซาบาลาก้า แล้วเข้าประตูไปแบบที่งงกันทั้งสนาม จากนั้นจบครึ่งแรก อาแจ็กซ์ บุกนำ เชลซี 3-1
ครึ่งหลัง อาแจ็กซ์ หนีเป็น 4-1 ฮาคิม ซิเยค จ่ายบอลยัดเข้าเขตโทษให้ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ๊ค จับหนึ่งจังหวะก่อนยิงหักข้อส่งบอลผ่านมือ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า เข้าไป
นาที 60 สถานการณ์ของเชลซีแย่ลงอีกเมื่อ เมสัน เมาท์ กองกลางคนสำคัญได้รับบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว แฟร้งค์ แลมพาร์ด จึงส่ง คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ลงเล่นแทน
เชลซี ฮึดไล่มาเป็น 4-2 ในนาที 63 คริสเตียน พูลิซิช กึ่งยิงกึ่งเปิดจากขวาไปถึง แทมมี่ อบราฮัม ได้แหย่เท้าเปลี่ยนทางบอลอีกที เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า เอาชัวร์จิ้มเป็นคนสุดท้ายส่งบอลตุงตาข่ายสำเร็จ
นาที 69 อาแจ็กซ์ เจอใบแดงไล่ออกพร้อมกัน 2 คนและเป็นคู่เซนเตอร์ของทีมจากจังหวะที่ ดาเลย์ บลินด์ เสียบฟาวล์ใส่ แทมมี่ อบราฮัม จนโดนเหลือง 2 แถมจังหวะต่อเนื่องกัน คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ได้ยิงบอลไปติดแขน โยเอล เฟลท์มัน ในเขตโทษ ทำให้ได้เหลือง 2 เช่นกัน และเชลซีได้จุดโทษด้วย จอร์จินโญ่ รับหน้าที่สังหารเข้าไปทำให้สกอร์เป็น 4-3
เชลซี ไม่ปล่อยโอกาสทองหลุดมือ นาที 74 สามารตีเสมอ 4-4 ได้สำเร็จจากเตะมุมที่ คูร์ต ซูม่า โขกจังหวะแรกชนคาน รีซ เจมส์ กองหลังดาวรุ่งได้หวดสวยด้วยขวาส่งบอลตุงตาข่ายสำเร็จ
นาที 78 เชลซี ส่งบอลตุงตาข่ายได้จากการยิงของ เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ที่ซ้ำลูกยิงไกลของ จอร์จินโญ่ ทว่าผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์ก่อนพบว่า บอลไปโดนมือ แทมมี่ อบราฮัม ก่อนจึงไม่ให้ประตู
ท้ายเกมนาที 88 เชลซี เกือบนำเมื่อ ฮัดสัน-โอดอย ได้ยิงไกลถากเสานิดเดียว และอีกนาทีถัดมา มิชี่ บาตชูอายี่ ได้พลิกยิงด้วยซ้ายในเขตโทษแต่ก็ติดเซฟของ อันเดร โอนาน่า ทำให้จบเกมเสมอกันไปดุเดือด 4-4
ประเด็นน่าสนใจหลังเกม
- เชลซี มีโอกาสยิงประตู 23 ครั้ง เข้ากรอบ 9 ครั้ง และมีเปอร์เซนต์การครองบอลอยู่ที่ 54 เปอร์เซนต์
- อาแจ็กซ์ มีโอกาสยิงประตู 8 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ครั้ง และมีเปอร์เซนต์การครองบอลอยู่ที่ 46 เปอร์เซนต์
- แทมมี่ อบราฮัม มีโอกาสยิงประตูมากที่สุดในเกมนี้ที่ 8 ครั้ง
- มัตเตโอ โควาซิซ เลี้ยงผ่านสำเร็จมากที่สุดในเกมนี้ที่ 8 ครั้ง
- แทมมี่ อบราฮัม เอาชนะลูกกลางอากาศได้สำเร็จที่ 7 ครั้ง
- ฟิยาโก โทโมริ แท็คเกิ้ลสำเร็จมากที่สุดในเกมนี้ที่ 6 ครั้ง