หลังจากจบฤดูกาล 2018/19 มีหนึ่งข่าวที่แฟนบอลทั่วโลกต่างทราบกันดี นั่นก็คือ “โรบิน ฟาน เพอร์ซี่” ได้ประกาศแขวนสตั๊ด ปิดฉากตำนานดาวยิง ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซนอล ลง และวันนี้ BK8 ขอพาทุกท่านเจาะลึกไปถึง ประวัติฟุตบอล ของ ฟลายอิงดัตช์แมน ผู้ยิ่งใหญ่กันครับ
จุดเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลอาชีพ
จาก ประวัติฟุตบอล ของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เริ่มเข้าสู่เส้นทางลูกหนัง โดยเริ่มจากทีมเยาวชนของ เอ็กซ์เซลซิเออร์ ในวัย 14 ปี ก่อนที่ 2 ปีต่อมาจะถูก เฟเยนูร์ด ซึ่งเป็นทีมในดวงใจของเขาดึงตัวไป และประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ด้วยวัย 17 ปี เฟเยนูร์ด ตอนนั้นเต็มไปด้วยผู้เล่นตัวฉกาจไม่ว่าจะเป็น ปิแอร์ ฟาน ฮอยจ์ดองก์ , ยอน ดาห์ล โธมัสสัน และ ชินจิ โอโนะ ในฤดูกาล 2001/02 ฟาน เพอร์ซี่ ลงเล่นไปถึง 17 เกม และหนึ่งในนั้นคือการคว้าแชมป์ ยูฟ่า คัพ พร้อมคว้ารางวัลผู้เล่นดาวรุ่งพรสวรรค์สูงของเนเธอร์แลนด์ไปครอง
ว่าที่ดาวยิงคนใหม่ในซุ้มมือปืน
ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ในปี 2004/05 ที่เพิ่งคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาหมาดๆต้องการหาสมาชิคใหม่เพื่อเป็นตัวแทนของแข้งตัวหลักอย่าง เดนิส เบิร์กแคมป์ ที่อายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้สอยตัว RVP เข้าซุ้มมือปืน ด้วยค่าตัว 2.75 ล้านปอนด์ พร้อมสัญญา 4 ปี แต่จากตำแหน่งการเล่นในสนาม กลับกลายเป็นว่าดาวยิงชาวดัตช์ เป็นตัวแทนของ เธียร์รี่ อองรี ไปเฉยเลย
ในช่วงแรก เพอร์ซี่ ยังไม่ได้โชว์ฟอร์มมากนัดเพราะโอกาสลงเล่นที่จำกัดจำเขี่ย แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ตัวเขาก็ได้โอกาสลงเล่นมากขึ้นเพราะอาการบาดเจ็บของ อองรี และลงช่วย อาร์เซน่อล ไปถึง 41 เกม ทำได้ 10 ประตู พร้อมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ และ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ตั้งแต่ฤดูกาลแรกซึ่งในตอนนั้น ไอ้ปืนใหญ่ ยังใช้ สนามไฮบิวรี่ เป็นรังเหย้าอยู่ตาม ประวัติฟุตบอล
ฤดูกาล 2011/12 ของ ฟาน เพอร์ซี่ ถือเป็นปีทองสุดๆ ที่เจ้าตัวทำได้กับ อาร์เซน่อล เมื่อเขาสลัดอาการบาดเจ็บลงสนามไปถึง 48 เกม และสอยตาข่ายคู่แข่งไปกว่า 37 ลูก และทำได้อีก 14 แอสซิสต์ พร้อมคว้ารางวัลดาวซัลโว พรีเมียร์ ลีก ด้วยจำนวน 30 ประตู และกวาดรางวัลส่วนตัวมากมายเก็บเข้าบ้านของเขา ถึงแม้ผลงานส่วนตัวจะเปรี้ยงป้าง แต่สโมสรไม่ประสบความสำเร็จใดๆจนต้องจำใจย้ายออกไปหาความท้าทายใหม่ๆ
สู่บ้านหลังใหม่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด
เมื่อฟาน เพอร์ซี ออกมาแถลงว่าเขาจะไม่ต่อสัญญาใหม่กับ อาร์เซนอล ในเดือนกรกฎาคม 2012 ก็เป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่อาศัยจังหวะนี้เซ็นสัญญาดาวยิงชาวดัชต์ไปร่วมทีม ด้วยราคา 22.5 ล้านปอนด์
ความจริงคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ฟาน เพอร์ซี นั้นช่างเหมาะสมต่อกันและกัน ที่นี่ ฟาน เพอร์ซี สามารถทำประตูได้ทุกรูปแบบ ทำประตูใส่ทีมใหญ่ทุกทีม ในฤดูกาลที่ ปีศาจแดง หมายมั่นปั้นมือที่จะคว้าแชมป์เหนือ แมนซิตี อริร่วมเมือง
สุดท้ายแล้ว ปีศาจแดง แมนยู ก็สามารถคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 ได้สำเร็จในฤดูกาลแรกที่เขาเข้าร่วมทีม และเป็นการคว้าแชมป์ฤดูกาลสุดท้ายของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ประตูแห่งความทรงจำ
ในศึกฟุตบอลโลก 2014 เกมที่ เนเธอร์แลนด์ พบกับ สเปน ในรอบแบ่งกลุ่ม นัดนี้ขุนพลกังหันลมเก็บความแค้นที่มีอยู่เต็มอกมาระบายใส่นักเตะกระทิงดุ
พวกเขาถูกจับตามองในฐานะที่อยู่ในกรุ๊ปออฟเดธร่วมกับแชมป์เก่าอย่างสเปน อย่างไรก็ตาม ฟาน เพอร์ซี ก็ได้ส่ง สเปน ไปสู่ความตาย ด้วยสองประตูในเกมที่เนเธอร์แลนด์ถล่มสเปนไป 5-1 และหนึ่งในนั้นก็เป็นหนึ่งในประตูที่สวยที่สุดตลอดกาลทัวร์นาเมนท์ฟุตบอลโลกอีกต่างหาก
ประตูที่ว่าเริ่มต้นจาก จากลูกเปิดกราบซ้ายของ ดาลีย์ บลินด์ เขาจัดการกระโดดพุ่งไปหาบอล แล้วโหม่งกลางอากาศ บอลผ่านมือ อิเคร์ คาซิยาส เข้าประตูไป เกิดเป็นประตูที่สวยงามที่สุดลูกหนึ่งในโลกฟุตบอล
โรบิน ผ่านร้อนผ่านหนาวในทีมชาติจนรับใช้เกิน 100 นัด ยิงไป 50 ประตู แต่ด้วยผลงานที่ไม่สามารถพาทีมผ่านเข้าไปเล่น ยูโร 2016 รอบสุดท้ายได้ ทำให้เขายอมหลีกทางให้รุ่นน้องขึ้นมาแทนด้วยการประกาศอำลาทีมชาติ และถัดมาอีกไม่กี่ปีเจ้าของรหัสถล่มประตู RVP ก็ได้ประกาศรีไทร์ตัวเองจากการเป็นนักเตะอาชีพ เป็นอันสิ้นสุดตำนานอันยิ่งใหญ่ ฟลายอิงดัตช์แมน
One Reply to “BK8THAI โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ : เดอะฟลายอิงดัตช์แมน”